วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ในหลวงภูมิพล เสด็จลงภาคใต้ครั้งแรกในรัชกาล

     
     ตามโบราณราชประเพณีเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงราชาภิเษกเสร็จ ก็ต้องเสด็จออกเยี่ยมราษฎร เพื่อให้ราษฎรรู้จักพระองค์
     ในวันที่5พฤษภาคม2493 เมื่อในหลวงภูมิพลท่านได้ทรงผ่านพิธีบรมราชาภิเษกเสร็จแล้ว พระองค์ก็ทรงได้เสด็จเลียบพระนครเพื่อจะได้เป็นไปตามโบราณราชเพณี และที่สำคัญคือพระองค์จะต้องเสด็จไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อรักษาพระองค์อันเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์(คราวอยู่ต่างประเทศ)
     ซึ่งเมื่อพระองค์เสด็จกลับมายังราชอาณาจักรแล้วก็ได้มีความตั้งใจที่จะเสด็จเยี่ยมราษฎรในภาคต่างๆ


     ด้วยเหตุนี้ในเช้าของวันที่26กุมภาพันธ์ 2502ราษฎรพี่น้องชาวภาคใต้ต่างก็ได้มีความปลื้มปิติยินดีอย่างหาที่สุดไม่ได้ เมื่อกระทรวงมหาดไทยได้มีแถลงการณ์ว่า
"ในหลวงภูมิพลจะเสด็จลงเยี่ยมราษฎรพี่น้องชาวภาคใต้"
โดยมีกำหนดการจะเสด็จในวันที่6มีนาคม2502 เป็นเวลา20วัน ในการเสด็จครั้งนี้ ในหลวงภูมิพลท่านจะทรงเสด็จออกจากพระนครโดยขบวนรถไฟพิเศษ จากสถานีจิตรลาในเวลา 06.45 ของเช้าวันที่6 
     ถึงสถานีชุมพร(ซึ่งถือเป็นประตูสู่ภาคใต้)ในเวลา17.45ของวันเดียวกัน โดยพระองค์จะประทับที่ชุมพร1คืน วันรุ่งขึ้นก็เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งต่อไปยังจังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส  จากนั้นก็จะเสด็จโดยรถไฟจากนราธิวาส ไปประทับที่สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดสุดท้าย...ตามลำดับ เป็นเวลา20วัน...


     และแล้ววันที่ราษฎรพี่น้องภาคใต้เฝ้ารอก็มาถึง เมื่อเช้าของวันที่6มีนาคม2502 ในหลวงภูมิพลและพระราชินีคู่บารมีของพระองค์ ได้เสด็จจากพระตำหนักจิตรลดาไปยังสถานีรถไฟจิตรลดา เพื่อจะเสด็จไปเยี่ยมราษฎรของพระองค์ที่ภาคใต้ โดยได้มีเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ ประธานและคณะองคมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายทหาร และพลเรือน ตลอดจนประชาชน เฝ้าส่งเสด็จ ที่สถานีรถไฟจิตรลดาเป็นจำนวนมาก


     เมื่อในหลวงภูมิพลและพระราชินีได้พูดคุยทักทายกับผู้ที่มาเฝ้าส่งเสด็จแล้ว เวลา07.00 ขบวนรถไฟพระที่นั่งก็เคลื่อนออกจากสถานี แตรเดี่ยวเป่าเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้ที่มาเฝ้าส่งเสด็จต่างถวายความเคารพจนสุดขบวนรถ
    และที่น่าประทับใจอีกสิ่งหนึ่งในครั้งนี้ นั้นคือ พระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกเธอ ทั้ง3พระองค์ได้มาส่งเสด็จที่สถานีรถไฟด้วย ไม่ใช่ได้แค่โบกมือส่งอยู่ในรั้วพระตำหนักเหมือนครั้งเสด็จภาคเหนือ



............................................









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น