วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2554

ในหลวงภูมิพลกับความกตัญญูที่มีต่อพระชนนี

     
     ภาพนี้ถือเป็นภาพที่ชินตาของคนไทยทุกคน เป็นภาพครั้งที่เมื่อสมเด็จฯย่าท่านยังคงมีชีวิติอยู่ เมื่อสมเด็จฯย่าเสด็จไปในที่ต่างๆ เราก็จะเห็นในหลวงภูมิพลท่านจะทรงเดินประคองไปตลอดทาง แม้ว่าจะมีทั้งทหารคนสนิท องค์รักษ์ พยาบาล ที่จะคอยประคองสมเด็จฯย่าอยู่แล้วก็ตาม แต่สำหรับในหลวงภูมิพลแล้วท่านกลับไม่ยินดีที่จะให้ผู้อื่นทำเช่นนั้น โดยในหลวงภูมิพลท่านมักจะตรัสว่า
"ไม่ต้อง คนนี้แม่เรา เราประคองเอง
ตอนเล็กๆแม่ประคองเรา สอนเราเดิน หัดให้เราเดิน 
เฉพาะฉะนั้น ตอนนี้แม่แก่แล้ว เราต้องประคองแม่เดิน
เพื่อเทิดพระคุณท่าน....ไม่ต้องอายใคร"


     ภาพที่ในหลวงภูมิพลทรงประคองสมเด็จฯย่า ถือเป็นภาพที่ประทับใจและเป็นที่ชื่นชมในพระจริยวัตรอย่างยิ่งของผู้ที่พบเห็น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคุณธรรมสูงสุดของผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของแผ่นดิน ที่ท่านได้แสดงออกถึงความกตัญญูที่มีต่อผู้ให้กำเนิด
     ภายหลังที่งานพระบรมศพของสมเด็จฯย่าเสร็จสิ้นลงแล้ว ราชเลขาของสมเด็จฯย่า ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ต่อหน้าสื่อมวลชนถึงความกตัญญูกตเวทีของในหลวงภูมิพลว่า
"ในตอนนั้นพระองค์(สมเด็จฯย่า)มีอายุ93ปีแล้ว
ในหลวงภูมิพลท่านทรงเสด็จฯจากวังสวนจิตรฯมายังวังสระปทุมตอนเย็นทุกวัน
เพื่อมากินข้าวกับแม่ คุยกับแม่ ทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ"


    โดยในหลวงภูมิพลท่านจะทรงไปกินข้าวมื้อเย็นกับสมเด็จฯย่าถึงสัปดาห์ละ5วั้น นั้นคือแม้ว่าในหลวงภูมิพลท่านจะทรงประทับอยู่คนละที่กับสมเด็จฯย่า(ในหลวงอยู่วังสวนจิตรฯ สมเด็จฯย่าอยู่วังสระปทุม)แต่ในหลวงภูมิพลท่านก็ยังคอยให้ความรักและเอาใจใส่ต่อสมเด็จฯย่าอยู่ตลอดเวลา(คือให้ทั้งความรักและความอุ่นใจอยู่เสมอ) โดยหลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วในหลวงภูมิพลท่านก็จะทรงนั่งคุยกับสมเด็จฯย่า และก็มักจะตรัสว่า
"..แม่เคยสอนอะไรที่สำคัญๆ อยากฟังแม่สอนอีก.."


     ในขณะที่สมเด็จฯย่าป่วยหนักอยู่ที่ศิริราช ในหลวงภูมิพลท่านก็จะทรงไปเยี่ยมตอนตี1เกือบตี2ทุกคืน(เหตุผลเพราะท่านไม่อยากให้ราษฎรของท่านต้องเดือดร้อนจากรถติดกระบวนเสด็จฯของท่าน ท่านจึงได้เลือกใช้เวลานี้) ในหลวงภูมิพลท่านจะทรงอยู่จนถึงเวลาประมาณตี4กว่าๆจึงจะเสด็จฯกลับ
    มีอยู่ครั้งหนึ่งในหลวงภูมิพลท่านก็ป่วย สมเด็จฯย่าก็ป่วย โดยอยู่กันคนละมุมตึกของศิริราช ตอนเช้าเมื่อท่านเปิดประตูห้อง และเห็นพยาบาลกำลังเข็ญรถที่สมเด็จฯย่านั่งอยู่เพื่อออกมารับลม โดยผ่านทางหน้าห้องของท่านพอดี เมื่อในหลวงภูมิพลท่านทรงเห็น ท่านก็ออกมาจากห้องแย่งพยาบาลเข็ญรถให้สมเด็จฯย่า แม้พวกมหาดเล็กจะได้กราบทูลว่า ไม่เป็นไรไม่ต้องเข็ญเพราะมีพยาบาลเข็ญให้อยู่แล้ว
     ในหลวงภูมิพลท่านก็ตรัสว่า
"..นี่แม่ของเรา ทำไมต้องให้คนอื่นเข็ญ เราเข็ญเองได้.."


     และครั้งสุดท้าย ก็คือวันที่สมเด็จฯย่าสวรรคต ในวันนั้นในหลวงภูมิพลท่านได้อยู่เฝ้าสมเด็จฯย่าจนถึงตี5 โดยที่พระองค์ได้จับมือของสมเด็จฯย่า กอดสมเด็จฯย่า และปรนนิบัติอย่างนั้นอยู่ทั้งคืน จนกระทั่งสมเด็จฯย่าหลับไป ในหลวงภูมิพลท่านจึงเสด็จฯกลับ
     พอถึงวันต่อมาก็ได้มีโทรศัพท์แจ้งพระองค์ว่า สมเด็จฯย่าสิ้นพระชนม์แล้ว พระองค์ก็ทรงรีบเสด็จฯไปศิริราชในทันที เมื่อท่านได้ทรงเห็นสมเด็จฯย่านอนหลับตาอยู่บนเตียง ท่านก็ทรงคุกเข่าก้มลงกราบที่หน้าอกของสมเด็จฯย่า แนบหน้าตรงกับหัวใจของแม่เพื่อหอมหัวใจของแม่เป็นครั้งสุดท้าย แล้วพระองค์ก็ทรงซบหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน....


   

1 ความคิดเห็น:

  1. เหนือสิ่งสำคัญอื่นใด คือการรู้จักความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ พระเจ้าอยู่หัวท่านได้ทรงปฏิบัติในฐานะลูกได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ สมควรแก่การยกย่องและเทิดทูน เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกทุกๆคนบนแผ่นดินนี้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

    ตอบลบ