ปี2506 วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2506 เป็นวันมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ นอกจากพระราชพิธีตามปกติแล้ว ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค จากพระบรมมหาราชวังไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร ผู้ที่เฝ้าชมพระบารมีอยู่ตามหนทางที่กระบวนยาตราผ่าน ต่างออกปากเป็นเสียงเดียวกันว่า ทรงงามสง่าเกินถ้อยคำจะบรรยาย
ปี2507 ปีนี้ทรงริเริ่มโครงการพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกระพง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ซึ่งเป็นถิ่นฐานที่ภูมิประเทศแห้งแล้ง ราษฎรทำนาทำไร่ไม่ได้ผลบริบูรณ์ ทรงแนะนำวิธีการเกษตรกรรมแผนใหม่และระบบสหกรณ์ เป็นผลให้ชาวบ้านหุบกะพงสามารถยืนอยู่บนลำแข้งของตนเองได้ในเวลาต่อมา
ปี2508 ปีนี้ทรงเจริญพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการบำเพ็ญพระราชกุศลนมงคลวโรกาสข้างต้นตามโบราณราชประเพณี ที่นิยมเฉลิมฉลองโอกาสที่เจริญพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระบรมราชบุรพการี
ปี2509 งานอดิเรกอย่างหนึ่งที่ในหลวงภูมิพลท่านทรงพอพระทัยมาก คือ กีฬาเรือใบ ทรงต่อเรือด้วยพระองค์เองหลายแบบ ได้แก่ แบบ “ราชปะแตน” “มด” “ซุปเปอร์มด” และ “ไมโครมด” กับทั้งยังทรงส่งเสริมการแข่งขันกีฬาประเภทนี้ จนเป็นที่นิยมแพร่หลายกว้างขวางตราบจนทุกวัน
ปี2510 ปีพุทธศักราช 2510 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ในหลวงภูมิพล และพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ ก็ได้ทรงร่วมการแข่งขันกีฬาประเภทเรือใบ ในฐานะทีมชาติไทยด้วย ผลการแข่งขันปรากฏว่าทรงได้รับรางวัลเหรียญทองร่วมกัน
ปี2511 ปีนี้ทรงเริ่มโครงการพัฒนากลุ่มชาวไร่ดอนขุนห้วย ตามพระราชประสงค์ตามแนวทางที่ได้เคยทดลองจนได้รับผลดีแล้วที่หุบกะพง ทุกวันนี้ตามหนทางถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพฯ ไปยังภาคใต้เมื่อผ่านดอนขุนห้วย จ.เพชรบุรี เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรกรรมที่เป็นผลงานของสมาชิกสหกรณ์วางขาย สำหรับผู้ผ่านไปมาได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน
ปี2512 ปีพุทธศักราช 2512 ในหลวงภูมิพล ได้ทรงเริ่มต้นโครงการหลวง ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือราษฎรชาวไทยภูเขาในภาคเหนือของประเทศ โดยมีความคิดว่า ราษฎรเหล่านี้ส่วนมากมีอาชีพทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่นซึ่งเป็นยาเสพติดร้ายแรง ด้วยเหตุนี้จึงได้ทรงแนะนำการเพาะปลูกพืชพันธุ์อย่างใหม่ๆ กอปรด้วยเทคนิควิธีการที่ทันสมัย ที่จะทำให้ราษฎรชาวไทยภูเขามีรายได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน นับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวที่ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม
ปี2513 วันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2513 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระนามาภิไธยพระอัฐิสมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้ากรมหลวงสงขลานครินทร์ เป็นที่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ พระบรมราชชนก พร้อมกับทั้งเฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ เป็นที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ปี2514 วันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2514 เป็นปีที่ในหลวงภูมิพล ทรงดำรงอยู่ในสิริราชสมบัติครบ 25 ปีบริบูรณ์ ทางราชการและประชาชนพร้อมใจกันจัดงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก
ปี2515 วันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2515 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระราชพิธีสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต
ปี2516 ในค่ำของวันที่ 14 ตุลาคม พุทธศักราช 2516(วันมหาวิปโยค)ขณะที่เกิดจลาจลร้ายแรงทั่วประเทศ ในหลวงภูมิพล ก็ได้มีกระแสพระราชดำรัสทางโทรทัศน์แก่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ให้ร่วมมือกันช่วยแก้ปัญหา เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยโดยเร็ว ทุกคนที่ได้เห็นพระพักตร์ของในหลวงภูมิพลในคืนวันนั้น ไม่มีใครที่กลั้นน้ำตาไว้ได้ เพราะได้เห็นกับตาว่า ทุกข์ของพระผู้เป็นพ่อเมืองนั้นยิ่งใหญ่หนักหนาแค่ใหน
พระองค์ท่านเดินทางไปทั่วประเทศไทยจริง ๆ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ตอบลบอ่านแล้วรู้สึกดีจังเลย...ขอบคุณค่ะ