หลังจากที่ในหลวงภูมิพล ท่านเสด็จเยี่่ยมค่ายทหารที่จังหวัดชุมพรเสร็จแ้ล้วในช่วงสายของวันที่7มีนาคม พ.ศ.2502 ท่านก็ได้เสด็จต่อไปยังเมืองระนอง ซึ่งเป็นจังหวัดที่2ของการทรงออกเยี่ยมราษฎรทางภาคใต้ในครั้งแรกของรัชกาลของพระองค์
เมื่อเสด็จไปถึงซุ้มรอยต่อระหว่างเขตจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนอง ที่ ต.ปากจัน ห่างจากตัวจังหวัดระนอง86กิโล นาย พันธุ์ สายตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ก็ได้ถวายพระแสงราชศาสตราประจำจังหวัด จากนั้นในหลวงภูมิพลก็ได้เสด็จทอดพระเนตรศิลาที่ในหลวงรัชกาลที่5ทรงได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ เมื่อครั้งที่เสด็จประพาสผ่านมาโดยขบวนช้างและม้าจากจังหวัดชุมพร มาประทับพักแรมที่พลับพลาดอนวังทู้ ต.ปากจั่น เมื่อวันที่21 เมษายน 2433 ในการนี้ในหลวงภูมิพลและพระราชินีก็ทรงได้สลักพระปรมาภิไธยย่อ "ภปร." และ "สก." บนศิลาจารึกไว้ใกล้กับ พระปรมาภิไธยย่อ "จปร."ของในหลวงรัชกาลที่5ด้วย
ต่อจากนั้นก็ได้เสร็จไปยัง อ.กระบุรี โดยนายอำเภอกระบุรี ได้นำเสด็จเยี่ยมข้าราชการและราษฎรที่มาเฝ้ารอรับเสด็จ และก็ได้เสวยอาหารกลางวัน ณ.ที่ว่าการอำเภอกระบุรี เสร็จจากนั้นก็ทรงเสด็จไปทอดพระเนตรการขุดแร่ของบริษัท ไซมิสทิน ซินดิเกต ที่ ต.บางนอน โดยมีนาย วิชา เศรษฐบุตร อธิบดีกรมโลหะกิจ กราบบังคมทูลอธิบายวิธีการขุดแร่ ในการนี้ในหลวงภูมิพลท่านทรงได้ดูเรือขุดแร่ที่กำลังทำงานอยู่ด้วย และจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดระนองได้ทูลเกล้าถวายเรือขุดจำลองเป็นที่ระลึก เสร็จแล้วก็ทรงได้เสด็จไปยังจวนผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้จัดเป็นที่ประทับพักแรมของทั้ง2พระองค์
บริเวณสุสานเจ้าเมืองระนอง
เมื่อถึงจวนผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้้ง2พระองค์ก็ทรงเสด็จไปวางพวงดอกไม้ ณ.สุสานต้นตระกูล ณ ระนอง โดยมี พระยาปฎิพัทธภูบาล ผู้สืบต้นตระกูล ณ ระนอง เข้าเฝ้าฯและได้น้อมเกล้าถวายหงส์มุกแก่ในหลวงภูมิพล ในหลวงภูมิพลก็ได้พูดคุยกับพระยาปฎิพัทธภูบาล ตามสมควร จากนั้นก็เสด็จไปยังโรงเรียนพิชัยวัฒนาคาร ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด โดยมีข้าราชการ เหล่าลูกเสือ และประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จเป็นหมื่นคน รวมทั้งชาวพม่าที่ข้ามมาจากเมืองมะริดด้วย
เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดกราบบังคมทูลถวายรายงานเกี่ยงกับจังหวัดแล้ว ในหลวงภูมิพล ก็ได้มีพระราชดำรัส ตรัสแสดงความชื่นชมที่ได้ทรงมาเยี่ยมจังหวัดระนอง และที่ทรงมาเยี่ยมได้ก็เพราะมีการคมนาคมที่ดี ทรงยินดีที่ราษฎรในจังหวัดระนองมีการทำมาหากินได้ผลดี และท้ายสุดก็ทรงได้อวยพรให้ทุกคนมีความสุข...พอจบกระแสพระราชดำรัสทุกคนในบริเวณนั้นต่างก้มกราบรับพระพรพร้อมกันจนราบไปทั้งบริเวณ
เรือขุดแร่
จากนั้้นก็ทรงทอดพระเนตรชมการแสดงที่ทางจังหวัดจัดถวาย ซึ่งมีทั้งการรำเบิกโรง และที่สำคัญมีการระบำร่อนแร่(ซึ่งถอดแบบมาจากวิถีในการดำรงชีวิตของชาวระนองจริงๆ)มาถวายให้ในหลวงภูมิพลได้ทรงชมด้วย
แล้วในเช้าของวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2502 เวลา07.00 ในหลวงภูมิพลและพระราชินีก็ได้เสด็จต่อไปยังจังหวัดพังงา
..................................
บางภาพก็พึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ขอบคุณมากครับ
ตอบลบทุกที่ทุกแห่งพระองค์ทรงสถิตทุกดวงใจ
ตอบลบLong Live The Great King Bhumibol Adulyadej
ดีจัง
ตอบลบ