วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คู่พระบารมีในหลวงภูมิพล

       ในครั้งที่ในหลวงภูมิพล ท่านได้ทรงเสด็จไปยังปารีส ท่านก็ได้ทรงโทรศัพท์ถึงสมเด็จพระราชชนนี เพื่อทูลว่าได้เสด็จฯถึงปารีสแล้ว สมเด็จพระราชชนนีท่านก็ทรงถามถึงธิดาของหม่อมเจ้านักขัตรมงคลว่าสวยน่ารักไหม 
         ในหลวงภูมิพลท่านก็ทรงทูลตอบทันทีว่า เห็นแล้ว น่ารักมาก
          ในขณะนั้นไม่มีผู้ใดทราบถึงความในพระราชหฤทัยของท่าน จนเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น คือวันหนึ่งในเดือนตุลาคม ปี2491 ในหลวงภูมิพลท่านทรงขับรถพระที่นั่งออกจากเมืองโลซานน์เพื่อไปยังปารีส ได้ทรงประสบอุบัติเหตุรถยนต์พระที่นั่งชนขับรถบรรทุก ได้รับบาดเจ็บพระอาการค่อนข้างสาหัส

        ในระหว่างที่ในหลวงภูมิพลท่านทรงประชวร ทางคณะผู้แทนรัฐบาลก็ได้ไปเข้าเฝ้าฯเพื่อเยี่ยม
พระอาการ เมื่อพระองค์ท่านทรงทราบว่าในคณะที่มา มีหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ท่านก็ได้ทรงมีกระแสรับสั่งให้หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ เข้าเฝ้าฯเป็นการพิเศษโดยเฉพาะ
          พระองค์ก็ได้มีพระราชกระแสรับสั่งว่า พระองค์ได้ทรงรักหม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์ กิติยากร อย่างแน่นอน เหตุผลเพราะว่า เมื่อทรงฟื้นคืนพระสติครั้งแรกนั้น ก็ทรงระลึกถึงบุคลเพียงสองคนคือ สมเด็จพระราชชนนี และหม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์ ซึ่งแสดงถึงความจริงที่สถิตอยู่ในพระราชหฤทัย  
           ส่วนความในพระราชหฤทัยของพระราชินีเอง พระองค์ท่านก็เคยเล่าไว้ว่า ....ตอนที่ในหลวงภูมิพลท่านประทับอยู่ที่โรงพยาบาลหลังที่ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งพระอาการค่อนข้างหนัก ทางตำรวจเค้าก็ได้โทรศัพท์มากราบบังคับทูลสมเด็จพระราชชนนี สมเด็จพระราชชนนี ท่านก็ทรงรีบเสด็จไปยังโรงพยาบาลทันที....แต่แทนที่ในหลวงภูมิพลท่านจะทรงมีพระราชปฎิสันถารกับสมเด็จพระราชชนนี ท่านกลับทรงหยิบรูปของพระองค์ออกมาจากกระเป๋า โดยที่พระองค์เองก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่าในหลวงภูมิพลท่านจะทรงมีรูปของพระองค์อยู่...” จากนั้นในหลวงภูมิพลท่านก็ได้ทรงตรัสให้นำตัวพระองค์เข้าเฝ้าฯ และ
                 ในหลวงภูมิพลท่านก็ได้ทรงบอกรักในตอนนั้น   
           หลังจากที่ในหลวงภูมิพลท่านได้ทรงขออนุญาตหม่อมเจ้านักขัตรมงคล บิดาของหม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์  เพื่อขอให้มาเฝ้าถวายการดูแลพระอาการเป็นกรณีพิเศษ โดยให้อยู่ในความดูแลของสมเด็จพระราชชนนี ก็ได้ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีมาตั้งแต่เดิม ก็กระชับแน่นยิ่งขึ้นจนกลายเป็นความรัก
           ต่อมาภายหลัง หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ก็ทรงย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทย ณ.กรุงลอนดอน ทำให้ในหลวงภูมิพลท่านต้องทรงเดินทางกว่า600กิโล กว่าที่จะได้ทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ในแต่ละครั้ง 

         จนในวันที่12สิงหาคม พ.ศ.2492 ในงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ17ปี ของหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ณ.สถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ในหลวงภูมิพลท่านทรงได้พระราชทานแหวน(ซึ่งเป็นวงเดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนก เคยประทานให้แก่สมเด็จพระบรมราชชนนีในครั้งอดีต)ให้แก่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
          และได้มีพระราชกระแสรับสั่งในขณะที่ทรงมอบว่า สิ่งนี้เป็นของสำคัญยิ่งและเป็นที่ระลึกด้วย









ที่มา: "รักในราชสำนัก"โดย พิมาน แจ่มจรัส จัดพิมพ์โดย บริษัทสร้างสรรค์บุ๊กส์ จำกัด 2524
         "ทำเป็นธรรม" โดย ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา


2 ความคิดเห็น:

  1. เรื่อง น่ารัก สั้นกระชับ ดีจัง
    นานจะได้อ่าน เรื่อง หวาน ๆ ของ พระองค์ท่าน
    ขอบคุณนะคะ ที่เขียน เรื่องนี้

    ตอบลบ
  2. เป็นเรื่องน่ายินดีที่คนไทยไม่เคยลืม คู่บุญบารมีของในหลวง
    แม่พระของแผ่นดินไทย........

    ตอบลบ